พระยา
ภักดีชุมพล (แล) ผู้สร้างเมืองชัยภูมิ และเป็นเจ้าเมืองชัยภูมิคนแรก
ชาวเมืองชัยภูมินิยมเรียกขานท่านด้วยความยกย่องนับถือว่า "เจ้าพ่อพญาแล"
พระยา
ภักดีชุมพล เดิมชื่อ"แล" เป็นชาวนครเวียงจันทน์
เคยรับราชการเป็นพี่เลี้ยงราชบุตรในเจ้าอนุวงศ์แห่งอาณาจักรล้านช้าง เวียงจันทน์
(ขณะนั้นตกเป็นประเทศราชของไทยแล้ว) ในสมัยรัชกาลที่ 2 พ.ศ. 2360 นายแลได้อพยพไพร่พลข้ามแม่น้ำโขงมาตั้งบ้านเรือนที่บ้านน้ำขุ่นหนองอีจาน
(อยู่ในเขตอำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา)
ต่อมาได้ย้ายไปตั้งใหม่ที่บ้านโนนน้ำอ้อม บ้านชีลอง (อยู่ในเขตอำเภอเมืองชัยภูมิ)
และได้ทำราชการส่งส่วยต่อเจ้าอนุวงศ์
เจ้าอนุวงศ์จึงตั้งให้นายแลเป็นที่ขุนภักดีชุมพลนายกองนอก
ใน พ.ศ. 2365 ขุนภักดีชุมพลได้ย้ายชุมชนมาอยู่ที่บ้านหลวง
ซึ่งอยู่ระหว่างบ้านหนองหลอดกับบ้านหนองปลาเฒ่า ในเขตอำเภอเมืองชัยภูมิปัจจุบัน
เนื่องจากสถานที่เดิมเริ่มคับแคบ ไม่พอกับจำนวนพลเมืองที่เพิ่มขึ้น
เมื่อ พ.ศ. 2367 ได้ที่การพบบ่อทองที่บริเวณลำห้วยชาด นอกเขตบ้านหลวง
ขุนภักดีขุมพลจึงได้นำทองในบ่อนี้ไปส่วยแก่เจ้าอนุวงศ์และขอยกฐานะบ้านหลวง
ขึ้นเป็นเมือง เจ้าอนุวงศ์จึงประทานชื่อเมืองแก่ขุนภักดีชุมพลว่า เมืองชัยภูมิ
และเลื่อนบรรดาศักดิ์ให้เป็นพระภักดีชุมพล
ทว่าต่อมาพระภักดีชุมพลได้ขอเอาเมืองชัยภูมิขึ้นตรงต่อเมืองนครราชสีมา
และส่งส่วยแก่กรุงเทพแทน ไม่ขึ้นแก่เจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์อีกต่อไป
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้ยกบ้านหลวงเป็นเมืองชัยภูมิ และแต่งตั้งพระภักดีชุมพล (แล) เป็นพระยาภักดีชุมพล
(แล) เจ้าเมืองชัยภูมิคนแรก สร้างความไม่พอใจแก่ทางฝ่ายเวียงจันทน์อย่างมาก
ในสมัยรัชกาลที่ 3 พ.ศ. 2369 เจ้าอนุวงศ์ก่อการกบฎต่อกรุงเทพเพื่อแยกตัวเป็นเอกราช
โดยยกทัพเข้าตีเมืองนครราชสีมา แต่เห็นว่าจะทำการต่อไปได้ไม่ตลอด
จึงเผาเมืองนครราชสีมาทิ้ง และถอนทัพกลับไปตั้งรับที่เวียงจันทน์
ระหว่างทางกองทัพเจ้าอนุวงศ์เกิดความปั่นป่วนจากการลุกฮือของครัวเรือนที่
กวาดต้อนไปเวียงจันทน์ ขณะพักทัพอยู่ที่ทุ่งสำริด พระยาภักดีชุมพล (แล)
ได้ยกทัพไปสมทบกับคุณหญิงโมและครัวเรือนชาวเมืองนครราชสีมา ทำการตีกระหนาบกองทัพของเจ้าอนุวงศ์จนแตกพ่าย
เจ้าอนุวงศ์เกิดความแค้นที่พระยาภักดีชุมพลไม่ยอมให้ความร่วมมือกับฝ่ายลาว
ซ้ำยังยกทัพมาช่วยฝ่ายไทยตีกระหนาบทัพลาวอีกด้วย จึงย้อนกลับมาเมืองชัยภูมิ
จับตัวพระยาภักดีชุมพล (แล) ประหารชีวิต ที่บริเวณใต้ต้นมะขามริมหนองปลาเฒ่า
การ เสียชีวิตของพระยาภักดีชุมพล
(แล) ในครั้งนั้น เป็นเหตุการณ์สำคัญที่ชาวเมืองชัยภูมิจดจำตลอดมา
และระลึกถึงว่าเป็นวีรกรรมครั้งสำคัญของท่าน
ต่อมาชาวเมืองชัยภูมิจึงเรียกขานท่านด้วยความเคารพว่า "เจ้าพ่อพญาแล"
และได้มีการสร้างศาลไว้ตรงสถานที่ที่พระยาภักดีชุมพล (แล) ถูกประหารชีวิต
ที่บ้านหนองปลาเฒ่า อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 225 (ชัยภูมิ - บ้านเขว้า) ต่อมาใน พ.ศ. 2511 ทางราชการได้สร้างศาลขึ้นใหม่
ให้ชื่อว่า "ศาลพระยาภักดีชุมพล (แล) "
และจัดให้มีงานสักการะเจ้าพ่อพญาแลทุกปี โดยเริ่มจากวันพุธ แรกของเดือน 6 เป็นเวลา 7 วัน เรียกว่า
"งานเทศกาลบุญเดือนหก ระลึกถึงความดีของ เจ้าพ่อพญาแล"
ถือเป็นงานใหญ่ประจำปีของชาวชัยภูมิ และใน พ.ศ. 2518 ทางราชการร่วมกับพ่อค้าและประชาชนชาวชัยภูมิ
สร้างอนุสาวรีย์ของพระยาภักดีชุมพล (แล) ประดิษฐานอยู่ตรงวงเวียนศูนย์ราชการ ปากทางเข้าสู่ตัวเมืองชัยภูมิ
ลูก
หลานของพระยาภักดีชุมพล (แล) ที่ได้รับราชการเป็นเจ้าเมืองชัยภูมิคนต่อๆ มา
ล้วนได้รับยศและบรรดาศักดิ์เป็นที่พระยาภักดีชุมพลทุกคน รวมทั้งสิ้น 5 คน ส่วนเจ้าพ่อพญาแลได้เป็นพระยาภักดีชุมพลได้ 4 ปี เป็นเจ้าเมืองชัยภูมิถึง 10 ปี
วันเกิดของพระยาภักดีชุมพล
(แล)
วันเกิดของท่านนั้น
ทางโบราณคดียังไม่ปรากฏวันที่ท่านเกิด ทราบแต่ปีที่ท่านเสียชีวิตเท่านั้น
สัตว์ประจำพระยาภักดีชุมพล
(แล)
ประชาชนในจังหวัดชัยภูมิส่วนใหญ่คิดว่าช้างน่าจะเป็นสัตว์ที่ท่านโปรดปรานมากที่สุด
ยศที่ท่านได้รับ
ท่านได้รับพระราชทานยศดังนี้
• พระพี่เลี้ยงราชบุตร ยศนี้ได้รับจากเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์
• ขุนภักดีชุมพล ยศนี้ได้รับจากเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์
• พระภักดีชุมพล ยศนี้ได้รับจากเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์
• พระยาภักดีชุมพล (แล) ได้รับจากเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์
• พระยาภักดีชุมพล (แล)เจ้าเมืองชัยภูมิคนแรก
ได้รับจากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวสถานที่ระลึกถึงพระยาภักดีชุมพล (แล)
• อนุสาวรีย์พระยาภักดีชุมพล (แล)
• ศาลเจ้าพ่อพระยาแล
ผู้สืบต่อยศพระยาภักดีชุมพล
ผู้ที่ได้รับยศพระยาภักดีชุมพลต่อจากท่านนั้นมีดังนี้
• พระยาภักดีชุมพล ( เกตุ )
• พระยาภักดีชุมพล ( เบี้ยว )
• พระยาภักดีชุมพล ( ที )
• พระยาภักดีชุมพล ( บุญจันทร์ )
• พระยาภักดีชุมพล ( แสง )
จากสมัยของพระยาภักดีชุมพล
(แสง)เสียชีวิตเป็นต้นมา
ยศเจ้าเมืองก็เปลี่ยนกลายเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิในปัจจุบัน
ชการจังหวัดชัยภูมิในปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น