|
1.ประวัติความเป็นมา
|
ที่ว่าการอำเภอเมืองชัยภูมิ เดิมตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับศาลากลางจังหวัดชัยภูมิทางด้านทิศตะวันออก แต่เนื่องจากสถานที่คับแคบไม่สะดวกในการให้บริการประชาชน จึงได้ออกมาก่อสร้างอาคารที่ว่าการฯใหม่ ในปัจจุบันตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นสนามบินเก่าในสมัยสงครามเวียดนาม เป็นที่ตั้งของศูนย์กลางการบริหารของส่วนราชการในระดับจังหวัด ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และสังคมของจังหวัดชัยภูมิ ที่ว่าการอำเภอเมืองชัยภูมิ ตั้งอยู่ถนนองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ สาย 2 ติดกับสนามกีฬากลางจังหวัดชัยภูมิ
สำหรับประวัติความเป็นมา (ดูประวัติความเป็นมาของเจ้าพ่อพญาแล เจ้าเมืองชัยภูมิ คนแรก)
สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมืองชัยภูมิ ปรากฏในทำเนียบแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ว่าเป็นเมืองขึ้นกับเมืองนครราชสีมาแต่ต่อมาผู้คนได้อพยพออกไปตั้งหลักแหล่งทำมาหากินที่อื่น และ พ.ศ.2360 "นายแล" ข้าราชการสำนักเจ้าอนุวงศ์เมืองเวียงจันทร์ได้อพยพครอบครัวและบริวารเดินทางข้ามลำน้ำโขง มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บ้านหนองน้ำขุ่น (หนองอีจาน) ซึ่งอยู่ในบริเวณท้องที่อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมาใน ปัจจุบัน ต่อมาในปี พ.ศ. 2362 เมื่อมีคนอพยพเข้ามาอยู่มาก นายแลก็ได้ย้ายชุมชนมาตั้งใหม่ที่บ้านโนนน้ำอ้อม บ้านชีลอง ห่างจากตัวเมืองชัยภูมิ 6 กิโลเมตร นายแลได้เก็บส่วยผ้าขาวส่งไปบรรณาการเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทร์ จนได้รับบำเหน็จความชอบแต่งตั้งเป็น "ขุนภักดีชุมพล" ในปี พ.ศ. 2365 นายแลได้ย้ายชุมชนอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากที่เดิมกันดารน้ำ มาตั้งใหม่ที่บริเวณบ้านหลวง ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างหนองปลาเฒ่ากันหนองหลอด เขตอำเภอเมืองชัยภูมิ ปัจจุบัน และได้หันมาขึ้นตรงต่อเมืองนครราชสีมา และส่งส่วยทองคำถวายแด่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ไม่ยอมขึ้นต่อเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทร์อีกต่อไปจึง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้ายก บ้านหลวง ขึ้นเป็น "เมืองชัยภูมิ" และแต่งตั้งขุนภักดีชุมพล (แล) เป็น "พระยาภักดีชุมพล" เป็นเจ้าเมืองคนแรก
ต่อมาเจ้าอนุวงศ์ผู้ครองนครเวียงจันทร์ ได้ก่อการกบฏ ยกทัพเข้ามาหมายจะตีกรุงเทพฯ โดยหลอกหัวเมืองต่าง ๆ ที่เดินทัพมาว่าจะมาช่วยกรุงเทพฯ รบกับอังกฤษ จนกระทั่งเจ้าอนุวงศ์สามารถยึดเมืองนครราชสีมาได้เมื่อปี พ.ศ. 2369 ซึ่งตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้นต่อมา เมื่อความแตก เจ้าอนุวงศ์เวียงจันทร์ได้กวาดต้อนชาวเมืองนครราชสีมา เพื่อนำไปยังเมืองเวียงจันทร์ เมื่อไปถึงทุ่งสัมฤทธิ์ หญิงชายชาวเมืองที่ถูกจับโดยการนำของคุณหญิงโม ภรรยาเจ้าเมืองนครราชสีมา ได้ลุกฮือขึ้นต่อสู้ พระยาภักดีชุมพลเจ้าเมืองชัยภูมิพร้อมด้วยเจ้าเมืองใกล้เคียงได้ยกทัพออกไปสมทบกับคุณหญิงโม ตีกระหนาบทัพเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทร์จนแตกพ่ายไป ฝ่ายกองทัพลาวส่วนหนึ่งล่าถอยจากเมืองนครราชสีมาเข้ายึดเมืองชัยภูมิไว้ และเกลี้ยกล่อมให้พระยาภักดีชุมพล (แล) เข้าร่วมเป็นกบฏด้วย แต่พระยาภักดีชุมพลไม่ยอมเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทร์เกิดความแค้น จึงจับตัวพระยาภักดีชุมพลมาประหารชีวิตที่บริเวณใต้ต้นมะขามใหญ่ริมหนองปลาเฒ่า ซึ่งต่อมาชาวชัยภูมิได้ระลึกถึงคุณความดีที่ท่านมีความซื่อสัตย์และเสียสละต่อแผ่นดิน จึงได้พร้อมใจกันสร้างศาลขึ้น ณ บริเวณนั้น ปัจจุบันทางราชการได้สร้างศาลขึ้นใหม่เป็นศาลาทรงไทยชื่อว่า "ศาลาพระยาภักดีชุมพล (แล)" มีรูปหล่อของท่านอยู่ภายใน เป็นที่เคารพกราบไว้และถือเป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งของจังหวัด ตั้งอยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดชัยภูมิประมาณ 3 กิโลเมตร
|
2.เนื้อที่/พื้นที่
|
1200 ตร.กม.
|
3.สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไป
|
แบบมรสุม ร้อน ฝน หนาว
|
|
ข้อมูลการปกครอง
|
|
1.ตำบล.......18....
แห่ง
|
3.เทศบาล..เมือง 1 ตำบล 2.....แห่ง
|
2.หมู่บ้าน....224....
แห่ง
|
4.อบต........18 ...
แห่ง
|
|
ข้อมูลด้านเศรษฐกิจ
|
|
1.อาชีพหลัก ได้แก่
|
เกษตรกรรม ได้แก่
1. ข้าวนาปี
2. มันสำปะหลัง
3. อ้อยโรงงาน
4.เลี้ยงสัตว์
|
2.อาชีพเสริม ได้แก่
|
1. แปรรูปผลผลิตทางการเกษตร
2. ทอผ้า
3.รับจ้างทั่วไป
|
3.จำนวนธนาคาร
|
มี 10 แห่ง ได้แก่
1. ธนาคารกรุงเทพ 2 สาขา
2. ธนาคารกรุงไทย 2 สาขา
3. ธนาคารกสิกรไทย 1 สาขา
4. ธนาคารออมสิน 1 สาขา
5. ธนาคารทหารไทย 1 สาขา
6. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 1 สาขา
7. ธนาคารไทยพานิชย์ 1 สาขา
8. ธนาคารนครหลวงไทย 1 สาขา
9.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 1 สาขา
10.ธนาคารเพื่อการเกษตร 1 สาขา
|
4.จำนวนห้างสรรพสินค้า
|
มี โลตัส 1 แห่ง
|
|
ด้านสังคม
|
|
1.โรงเรียนมัธยม ได้แก่
|
1. โรงเรียนสตรีชัยภูมิ
2. โรงเรียนเมืองพญาแล
3.โรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล
4.โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย
5.โรงเรียนกุดตุ้มวิทยา
6.โรงเรียนห้วยต้อนวิทยา
7.โรงเรียนชีลองวิทยา
8.โรงเรียนอนุบาลชัยภูมิ
|
2.มหาวิทยาลัย ได้แก่
|
1. สถาบันราชภัฎชัยภูมิ
2.สถาบันชัยภูมิบริหารธุรกิจ(C-BAC)
3.สถาบันการพละศึกษาชัยภูมิ
4.วิทยาลัยเกษตรกรรมชัยภูมิ
5.วิทยาลัยเทคนิคชัยภูมิ
6.วิทยาลัยสารพัดช่างชัยภูมิ
|
|
ด้านทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของอำเภอ
|
|
ป่าไม้ เขตอุทยานแห่งชาติตาดโตน และอุทยานแห่งชาติภูแลนคา
|
|
ด้านประชากร
|
|
1.จำนวนประชากรทั้งสิ้น
|
รวม 184,319 คน
|
2.จำนวนประชากรชาย
|
รวม 90,945 คน
|
3.จำนวนประชากรหญิง
|
รวม 93,374 คน
|
4.ความหนาแน่นของประชากร
|
- คน/ตร.กม.
|
|
ด้านการคมนาคม
|
|
1.ทางบก
|
- รถยนต์
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 , 225, 205
- สถานีขนส่ง หมายเลขโทรศัพท์ -044-811493
,044-811556
- สถานีรถไฟ หมายเลขโทรศัพท์ -ไม่มี
|
2.ทางน้ำ
|
- ท่าเรือขนส่งโดยสาร หมายเลขโทรศัพท์ -ไม่มี
- ท่าแพขนานยนต์ หมายเลขโทรศัพท์ -ไม่มี
|
3.ทางอากาศ
|
- ท่าอากาศยาน หมายเลขโทรศัพท์ -ใช้ท่าอากาศยานขอนแก่น
|
|
ด้านการเกษตร
และอุตสาหกรรม
|
|
1.ผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญ
ได้แก่
|
1. ข้าวนาปี
2. มันสำปะหลัง
3. อ้อยโรงงาน
4.ผลไม้ตามฤดูกาล เช่น มะม่วง ขนุน ลำไย
5.ยางพารา
6.สับปะรด
|
2.ชื่อแหล่งน้ำที่สำคัญได้แก่
(แม่น้ำ/บึง/คลอง)
|
1. แม่น้ำชี
2. ลำปะทาว , ลำชีลอง
|
3.โรงงานอุตสาหกรรมที่สำคัญได้แก่
|
1. ตัดเย็บเสื้อผ้า ที่ตั้ง ต.ลาดใหญ่
2. ตัดเย็บเสื้อผ้า ที่ตั้ง โนนดินแดง ต.
|
|
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น